1. ISP ย่อมาจาก Internet Service Provider หมายถึง ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ISP เป็นหน่วยงานที่ให้บริการเชื่อมต่้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
2. ฺBackbone หมายถึง เส้นทางติดต่อหลักในเครือข่าย หรือสายเคเบิ้ลไยแก้วที่เชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ
ที่อยู่ไกลกันเป็นพันไมล์ เข้าด้วยกัน
3. Banner หมายถึง ภาพกราฟิกที่มีลักษณะเหมือนแผ่นป้ายที่ใช้โฆษณาหรือโลโก้ เป็นการโฆษณาผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจจะมีเฉพาะภาพกราฟิกหรืออาจจะมีข้อความร่วมกับภาพกราฟิก
4. BCC ย่อมาจาก Blind Carbon Copy หมายถึง การส่ง E-mail แบบไม่ให้มองเห็นรายชื่อ E-mail Address
BCC ใช้สำหรับการส่งสำเนา หรือส่ง E-mail
ไปให้หลายๆคนพร้อมกันในฉบับเดียว แต่ไม่ต้องการให้แสดง E-mail Address
ทั้งหมดใน E-mail ฉบับนั้นๆ โดยกำหนด E-mail Address
ที่ไม่ต้องการให้ผู้รับมองเห็น ไว้ที่ช่อง BCC เมื่อ E-mail
ไปถึงผู้รับก็จะไม่แสดง รายชื่อที่ส่งจาก BCC
5. Buffer หมายถึง ที่พักข้อมูลชั่วคราว เนื่องจากคอมพิวเตอร์นั้น
ความเร็วในการทำงานของอุปกรณ์แต่ละตัวไม่เท่ากัน จึงต้องมี buffer
สำหรับพักข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ทำงานเร็วกว่า
เพื่อส่งให้อุปกรณ์ที่ทำงานช้ากว่า หรือรับข้อมูลไว้ก่อน
เพื่อรอไว้ให้กรณีที่อุปกรณ์ต่อไปยังทำงานอยู่หรือทำงานไม่เสร็จ
6. Data Rate หมายถึง จำนวนบิตของข้อมูลจริงๆ ที่ผ่านไปในช่องทางดิจิตอล ปกติในการรับส่งข้อมูลดิจิตอลนั้น
จำนวนบิตส่วนหนึ่งจะใช้ไปในส่วนหัว(Overhead)
ของข่าวสารสำหรับการติดต่อระหว่างผู้ส่งและผู้รับ
เมื่อตัดบิตที่ใช้ในส่วนหัวออก
จะเหลือเฉพาะบิตของข้อมูลซึ่งส่วนที่เหลือนี้จะเรียกว่า Data
Rate
7. E-Commerce หมายถึง ธุรกิจที่ทำผ่านอินเทอร์เน็ต,
การทำการค้าผ่านอินเทอร์เน็ต
8. FAQ ย่อมาจาก Frequently Asked Question หมายถึง การรวบรวมคำถามที่มีผู้ถามบ่อยๆ เอาไว้ด้วยกัน
9. Firmware หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่บรรจุ คำสั่งพื้นฐาน
สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ถาวร ในหน่วยความจำ แบบรอม ซึ่งถ้าใช้เป็น
FlashROM ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนแปลงคำสั่งใหม่ได้
10. FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocol หมายถึง บริการรับส่งไฟล์ข้อมูลผ่านทางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556
คำศัพท์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ครั้งที่ 1
1. application software หมายถึง โปรแกรมหรือซอฟแวร์ที่ทำหน้าที่แทนคนในด้านใดด้านหนึ่ง application software แตกต่างจาก operating system ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
2. capacity หมายถึง ปริมาณของสารสนเทศซึ่งคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่ใช้ในการประมวลผลสามารถประมวลหรือเก็บไว้ได้
3. carrier system หมายถึง เป็นวิธีการสื่อสารซึ่งใช้ความถี่ต่างๆ กันเพื่อส่งผ่านหรือถ่ายทอดสารสนเทศไปตามช่องสัญญาณการสื่อสารแต่ละช่อง
4. encryption หมายถึง กระบวนการแปลงสารสนเทศให้เป็นรหัสลับเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร หรือสารสนเทศได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะส่งผ่าน หรือถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ
5.bug หมายถึง การ error ของระบบหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือในรายละเอียดบางชิ้นของฮาร์ดแวร์
6. CAI หมายถึง การใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการสอน โดยผู้เรียนสามารถเรียนรู้เองโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ
7. cracker หมายถึง ผู้ที่ทำลายระบบป้องกันความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์
8. full-duplex หมายถึง ชื่อชนิดช่องทางการสื่อสารที่สามารถส่งข้อมูลทั้งไปและกลับได้ในเวลาเดียวกัน
9. half-duplex หมายถึง ชนิดของช่องทางสื่อสารที่สามารถส่งข้อมูลทั้งไปและกลับได้ แต่ในเวลาเดียวกัน สามารถส่งได้เพียงหนึ่งทิศทางเท่านั้น
10. PPP หรือ Point-to-Point Protocol หมายถึง เป็นโปรโตคอลใหม่เพื่อให้ส่งข้อมูลแบบ TCP/IP ข้ามการเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุดได้ การใช้งานที่ใช้มากที่สุดคือ การเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตผ่านทางสายโทรศัพท์ ผู้ใช้จะทำงานได้เหมือนกับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยตรง
2. capacity หมายถึง ปริมาณของสารสนเทศซึ่งคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่ใช้ในการประมวลผลสามารถประมวลหรือเก็บไว้ได้
3. carrier system หมายถึง เป็นวิธีการสื่อสารซึ่งใช้ความถี่ต่างๆ กันเพื่อส่งผ่านหรือถ่ายทอดสารสนเทศไปตามช่องสัญญาณการสื่อสารแต่ละช่อง
4. encryption หมายถึง กระบวนการแปลงสารสนเทศให้เป็นรหัสลับเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร หรือสารสนเทศได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะส่งผ่าน หรือถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ
5.bug หมายถึง การ error ของระบบหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือในรายละเอียดบางชิ้นของฮาร์ดแวร์
6. CAI หมายถึง การใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการสอน โดยผู้เรียนสามารถเรียนรู้เองโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อ
7. cracker หมายถึง ผู้ที่ทำลายระบบป้องกันความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์
8. full-duplex หมายถึง ชื่อชนิดช่องทางการสื่อสารที่สามารถส่งข้อมูลทั้งไปและกลับได้ในเวลาเดียวกัน
9. half-duplex หมายถึง ชนิดของช่องทางสื่อสารที่สามารถส่งข้อมูลทั้งไปและกลับได้ แต่ในเวลาเดียวกัน สามารถส่งได้เพียงหนึ่งทิศทางเท่านั้น
10. PPP หรือ Point-to-Point Protocol หมายถึง เป็นโปรโตคอลใหม่เพื่อให้ส่งข้อมูลแบบ TCP/IP ข้ามการเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุดได้ การใช้งานที่ใช้มากที่สุดคือ การเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตผ่านทางสายโทรศัพท์ ผู้ใช้จะทำงานได้เหมือนกับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยตรง
วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556
แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา เครือข่ายคอมพิวเตอร์
1. จงให้คำนิยามของคำศัพท์ต่อไปนี้
1.1 Internet Intranet Extranet
Internet หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อเครือข่ายทั้งโลกเข้าด้วยกัน
Intranet หมายถึง เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้ ถ้าเชื่อมต่อระบบอินทราเน็ต กับระบบอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่จะแตกต่างกันในด้านความเร็ว คือ จะโหลดข้อมูลจากอินทราเน็ตได้เร็วกว่าอินเทอร์เน็ต
Extranet หมายถึง เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร กับเครื่องคอมพิวเตอร์ภายนอกองค์กร
1.2 Modem หมายถึง อุปกรณ์แปลงสัญญาณอนาล็อกให้เป็นดิจิตอลและแปลงกลับในทิศทางตรงกันข้ามจุดประสงค์เพื่อแปลงอนาล็อกเพือง่ายต่อการส่งข้อมูลและแปลงเป็นดิจิตอลเพื่อง่ายต่อการประมวลผล
1.3 Switch Hub หมายถึง อุปกรณ์กระจายสัญญานอินเตอร์เน็ต
1.4 DHCP Server หมายถึง โปรโตคอลที่ใช้ในการกำหนด IP Address อัตโนมัติแก่เครื่องลูกข่ายบนระบบ
1.5 ADSL Router หมายถึง การแชร์อินเตอร์เน็ตเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้
1.6 ISDN หมายถึง บริการสื่อสารร่วม หมายถึงสามารถรับส่งสัญญาณภาพ เสียง และข้อมูลได้พร้อมกัน
1.7 LAN MAN WAN
LAN หมายถึง การเชื่อมต่อระดับท้องถิ่น
MAN หมายถึง การเชื่อมต่อระดับเมือง
WAN หมายถึง การเชื่อมต่อระดับประเทศ
1.8 Firewall หมายถึง เป็นตัวกรองข้อมูลการสื่อสาร เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
1.9 Topology แบบ Bus หมายถึง ลักษณะการเชื่อมต่อแบบอนุกรม โดยใช้สายเคเบิ้ลเส้นยาวต่อเนื่องกันไป โครงสร้างแบบนี้มีจุดอ่อนเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหากับสายเคเบิ้ล ก็จะทำให้เครือข่ายรวนไปทั้งระบบ
1.10 TCP/IP หมายถึง มาตรฐานการสื่อสารและส่งข้อมูลผ่าน Internet ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
2. จงยกตัวอย่างสื่อนำสัญญาณที่รู้จักมา 3 อย่างพร้อมอธิบายพอสังเขป
1. สายโคแอกเชียล คือ ประกอบด้วยลวดทองแดงอยู่ตรงกลาง หุ้มด้วยฉนวนพลาสติก 1 ชั้น แล้วจึงหุ้มด้วยทองแดงที่ถักเป็นแผ่น แล้วหุ้มด้วยภายนอกอีกชั้นหนึ่งด้วยฉนวน สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสัญญาณรบกวนอื่นๆ ความเร็วในการส่งข้อมูล 350 Mbps
2. สายคู่ตีเกลียว คือ เป็นสายราคาถูกที่สุด ประกอบด้วยสายทองแดงที่มีฉนวนหุ้ม 2 เส้น นำมาพันกันเป็นเกลียว ความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps ส่งได้ในระยะทาง 1 mile
3. สัญญาณแสง คือ ใยแก้วซึ่งมีขนาดเล็กและบางทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้มาก สามารถส่งสัญญาณไปได้ไกลโดยมีการสูญเสียของสัญญาณน้อย ทั้งยังให้อัตราข้อมูล ที่สูงยิ่งกว่าสายโลหะหลายเท่าตัว3.
3. จงบอกประโยชน์ของระบบเครือข่ายมา 5 ข้อ
1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลทำได้ง่าย
2. ใช้ทรัพยากรร่วมกันได้
3. ใช้โปรแกรมร่วมกันได้
4. ทำงานประสานกันเป็นอย่างดี
5. ติดต่อสื่อสารสะดวกรวดเร็ว
4. จงออกแบบระบบเครือข่ายสำหรับร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เพื่อรองรับเครื่องคอมพิวเตอร์ประมาณ 20 เครื่อง
1.1 Internet Intranet Extranet
Internet หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อเครือข่ายทั้งโลกเข้าด้วยกัน
Intranet หมายถึง เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้ ถ้าเชื่อมต่อระบบอินทราเน็ต กับระบบอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่จะแตกต่างกันในด้านความเร็ว คือ จะโหลดข้อมูลจากอินทราเน็ตได้เร็วกว่าอินเทอร์เน็ต
Extranet หมายถึง เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร กับเครื่องคอมพิวเตอร์ภายนอกองค์กร
1.2 Modem หมายถึง อุปกรณ์แปลงสัญญาณอนาล็อกให้เป็นดิจิตอลและแปลงกลับในทิศทางตรงกันข้ามจุดประสงค์เพื่อแปลงอนาล็อกเพือง่ายต่อการส่งข้อมูลและแปลงเป็นดิจิตอลเพื่อง่ายต่อการประมวลผล
1.3 Switch Hub หมายถึง อุปกรณ์กระจายสัญญานอินเตอร์เน็ต
1.4 DHCP Server หมายถึง โปรโตคอลที่ใช้ในการกำหนด IP Address อัตโนมัติแก่เครื่องลูกข่ายบนระบบ
1.5 ADSL Router หมายถึง การแชร์อินเตอร์เน็ตเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้
1.6 ISDN หมายถึง บริการสื่อสารร่วม หมายถึงสามารถรับส่งสัญญาณภาพ เสียง และข้อมูลได้พร้อมกัน
1.7 LAN MAN WAN
LAN หมายถึง การเชื่อมต่อระดับท้องถิ่น
MAN หมายถึง การเชื่อมต่อระดับเมือง
WAN หมายถึง การเชื่อมต่อระดับประเทศ
1.8 Firewall หมายถึง เป็นตัวกรองข้อมูลการสื่อสาร เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
1.9 Topology แบบ Bus หมายถึง ลักษณะการเชื่อมต่อแบบอนุกรม โดยใช้สายเคเบิ้ลเส้นยาวต่อเนื่องกันไป โครงสร้างแบบนี้มีจุดอ่อนเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหากับสายเคเบิ้ล ก็จะทำให้เครือข่ายรวนไปทั้งระบบ
1.10 TCP/IP หมายถึง มาตรฐานการสื่อสารและส่งข้อมูลผ่าน Internet ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน
2. จงยกตัวอย่างสื่อนำสัญญาณที่รู้จักมา 3 อย่างพร้อมอธิบายพอสังเขป
1. สายโคแอกเชียล คือ ประกอบด้วยลวดทองแดงอยู่ตรงกลาง หุ้มด้วยฉนวนพลาสติก 1 ชั้น แล้วจึงหุ้มด้วยทองแดงที่ถักเป็นแผ่น แล้วหุ้มด้วยภายนอกอีกชั้นหนึ่งด้วยฉนวน สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสัญญาณรบกวนอื่นๆ ความเร็วในการส่งข้อมูล 350 Mbps
2. สายคู่ตีเกลียว คือ เป็นสายราคาถูกที่สุด ประกอบด้วยสายทองแดงที่มีฉนวนหุ้ม 2 เส้น นำมาพันกันเป็นเกลียว ความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps ส่งได้ในระยะทาง 1 mile
3. สัญญาณแสง คือ ใยแก้วซึ่งมีขนาดเล็กและบางทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้มาก สามารถส่งสัญญาณไปได้ไกลโดยมีการสูญเสียของสัญญาณน้อย ทั้งยังให้อัตราข้อมูล ที่สูงยิ่งกว่าสายโลหะหลายเท่าตัว3.
3. จงบอกประโยชน์ของระบบเครือข่ายมา 5 ข้อ
1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลทำได้ง่าย
2. ใช้ทรัพยากรร่วมกันได้
3. ใช้โปรแกรมร่วมกันได้
4. ทำงานประสานกันเป็นอย่างดี
5. ติดต่อสื่อสารสะดวกรวดเร็ว
4. จงออกแบบระบบเครือข่ายสำหรับร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เพื่อรองรับเครื่องคอมพิวเตอร์ประมาณ 20 เครื่อง
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)